วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

ข่าวน้ำมันรั่ว ที่เกาะเสม็ด ระยอง

วิกฤติน้ำมันรั่ว!แรงสะท้อนต่อศก.ระยอง วิกฤติน้ำมันรั่ว แรงสะท้อนต่อศก.ระยอง : อัจฉรา วิเศษศรี / มัทนา ลัดดาสิริพร ...   ที่มา: http://www.komchadluek.net/. 

  มีการประเมินเบื้องต้นว่าเหตุการณ์น้ำมันรั่วลงทะเลในพื้นที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งในสาขาธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ธุรกิจประมง ธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง และธุรกิจอื่นๆ มากกว่า 32,422 ราย และเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ดังกล่าว สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะประสานกับศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือเยียวยาที่จังหวัดระยองตั้งขึ้น เพื่อรวบรวมความเสียหายและความต้องการในการเยียวยาของผู้ประกอบการ ซึ่งจะนำไปสู่การวางแนวทางช่วยเหลือผ่านโครงการต่างๆ ที่ สสว. ดำเนินการอยู่   

   ในเบื้องต้นจะพิจารณาใช้ประโยชน์จากโครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ผู้ประกอบการ เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าแรงงานในอัตรา 300 บาทต่อวัน โดยจะเสนอขอขยายกรอบการดำเนินงานให้ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วลงทะเล เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนและเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการในระยอง จากเดิมที่จะมุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้  

   นอกจากนี้ จะพิจารณาใช้ประโยชน์จากโครงการที่ สสว.ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม คือ โครงการอัดฉีดเงินทุนหมุนเวียนช่วยเหลือเอสเอ็มอี หรือโครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่เอสเอ็มอี เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าจ้างแรงงานในอัตรา 300 บาทต่อวัน เฟสที่ 2 วงเงิน 400 ล้านบาท โดย สสว. จะนำเสนอผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความเห็นชอบก่อนที่จะนำไปใช้เป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ในครั้งนี้  

   ทั้งนี้ งบประมาณรวม 400 ล้านบาท ที่ สสว. วางเอาไว้จึงเป็นหนึ่งในหลายช่องทางที่ถูกนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูและเยียวยาถึงผลกระทบ จากน้ำมันดิบ 5 หมื่นลิตร ของบริษัทพีทีที โกลบอล เคมีคอล ที่ไหลลงสู่ทะเล กระทั่งคราบน้ำมันจำนวนมากถูกพัดขึ้นสู่ชายฝั่งของอ่าวพร้าว กินพื้นที่ครอบคลุมชายหาด 600 เมตร จนได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางทะเล และผลที่ตามมาคือ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ พากันอพยพออกไป    

     "สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราคือ ลูกค้าที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติ พากันยกเลิกการจองห้องพัก แม้เราจะชี้แจงให้ลูกค้าฟังว่าน้ำมันเข้าเฉพาะที่อ่าวพร้าวเท่านั้น หาดอื่นๆ ในเกาะเสม็ด ยังสวย เราใช้วิธีถ่ายรูป ซึ่งในภาพมีทั้งวันเดือนปี ที่ปรากฏ ยืนยันว่าถ่ายจากสถานที่จริงๆ ยืนยันกับนักท่องเที่ยว แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ เพราะความรู้สึกตื่นกลัว นี่คือสิ่งที่เราได้รับ" ปรวิศา เขมทอง ผู้จัดการรีสอร์ทบ้านไทย และรีสอร์ท แหลมเทียน จังหวัดระยอง กล่าว    

    ขณะที่ช่วงนี้ถือว่าโลว์ซีซั่นกว่าจะมีลูกค้าเข้ามาก็เป็นเรื่องยาก ทั้งลดราคา ทั้งจัดแพ็กเกจกระตุ้นความสนใจ กว่าจะทำสัญญา แต่ละกรุ๊ปไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อมีข่าวออกไปก็ทำให้บรรยากาศท่องเที่ยวในพื้นที่ตกต่ำลง การยกเลิกกรุ๊ปทัวร์ ไม่ใช่เพียงแค่รีสอร์ทไม่มีนักทอ่งเที่ยวเท่านั้น แต่มันเป็นความเดือดร้อน แบบห่วงโซ่ เป็นปัญหาที่เกิดทั้งระบบ โยงใยไปถึงผู้ค้า คนขับรถ ขับเรือ ซึ่งต่างก็ได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้า   

    เช่นเดียวกับสวัสดีโคโค และวิมานเสม็ด ที่ตั้งอยู่อ่าววงเดือน และหาดทรายแก้วบนเกาะเสม็ด ของ มุกดา ชมศิริ ที่ได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่โดยความเป็นจริงอ่าววงเดือน และหาดทรายแก้วและอีกหลายหาด ไม่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันแต่อย่างใด แต่ความเชื่อของนักท่องเที่ยวที่มีต่อพื้นที่ไม่ได้คิดเช่นนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือกรุ๊ปทัวร์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ยกเลิกการจองตลอดเดือนสิงหาคม     

      "ลูกค้าหายไปเกินครึ่ง หลังจากนี้คงต้องจัดโปรโมชั่นลดราคาค่าที่พักไปจนถึงเดือนกันยายน เพื่อดึงดูดความสนใจ และง่ายต่อการตัดสินใจของลูกค้า เป็นทางเดียวที่เราเชื่อมั่นว่าจะฟื้นฟูบรรยากาศได้" พันธ์ทิพย์ อรุณเวสสะเศรษฐ เจ้าของต้นสักรีสอร์ตและทิพย์เสม็ด อธิบายถึงแนวทางที่วางไว้                   

  ไชยรัตน์ ไตรรัตน์จรัสพร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดระยอง กล่าวว่า ตลอดเดือนสิงหาคม นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้มีการจองห้องพักกับรีสอร์ทบนเกาะเสม็ด ทยอยกันยกเลิกการจองห้องพักเป็นผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งจังหวัด ไม่ใช่เพียงอ่าวพร้าว หรือบนเกาะเสม็ด ที่เป็นพื้นที่ประสบภัยโดยตรง แต่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในลักษณะวงกว้าง  

  "เรื่องการท่องเที่ยว เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากวิเคราะห์ถึงมูลค่าของความเสียหายทางด้านการท่องเที่ยว ด้วยรายได้ภาคท่องเที่ยวทั้งจังหวัดที่มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท แต่วิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นนั่นหมายถึงรายได้ที่สูญหายไปจากระบบกว่า 4,000 ล้านบาท จริงอยู่ที่ชายหาดอ่าวพร้าวเริ่มคลี่คลายในแง่ของมลภาวะ แต่สิ่งที่จะตามมาคือภาพรวมด้านความเชื่อมั่นทางการท่องเที่ยว ที่ไม่สามารถดึงกลับคืนมาได้ในระยะเวลาอันสั้น" นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดระยอง กล่าว   

     วาสินี เกิดมณี เจ้าของร้าน น้องผึ้ง ค้าขายอาหารทะเล ริมหาดแม่รำพึง กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูมรสุมเข้า สัตว์น้ำที่นำขึ้นสู่ฝั่งมีน้อย ต้องไปซื้อวัตถุดิบมาจากทางภาคกลาง คิดเป็นรายจ่าย 3,000 บาทต่อวัน อธิบายกับลูกค้าว่าแหล่งที่มาของอาหารทะเลไม่ได้มาจากพื้นที่ระยอง แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ   

       "ขณะนี้ปิดร้านลงชั่วคราว เพราะสู้กับปัญหาไม่ไหว คงต้องรอให้ผ่านพ้นไปสักระยะ" วาสินี กล่าว    

 

ข้อมูลของจังหวัดระยอง ณ วันที่ 9 สิงหาคม มีการสรุปจำนวนผู้ได้รับผลกระทบที่แจ้งขึ้นทะเบียน 1,127 คน แบ่งเป็นประมง 410 คน ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร 606 คน ด้านสุขภาพ 1 คน และอื่นๆ อีก 110 คน ด้วยกัน การลงทะเบียนเพื่อรับการเยียวยา จะสิ้นสุดวันที่  31 สิงหาคม ส่วนแนวทางที่ทางจังหวัดวางเอาไว้นับจากนี้ก็คือ 1.เร่งเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งกลุ่มประมงเรือเล็กในพื้นที่จังหวัดระยอง  2.การแก้ไขภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว เพื่อเรียกชื่อเสียงและความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาเร็วที่สุด 3.การฟื้นฟูทรัพยากรทั้งบนบกและในทะเลอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ และ 4.การเรียกขวัญกำลังใจของทุกฝ่าย สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม อาหารทะเล และคุณภาพอากาศ      เป็นสิ่งที่ต้องเร่งขับเคลื่อนเพื่อฟื้นความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กลับคืนมา ท่ามกลางปัญหายังคงก่อตัวในพื้นที่ทั้งในเรื่องความเสี่ยงของสารปรอทจากการลงเล่นน้ำทะเล หรือตัวเลขการเยียวยาความเสียหายที่ฝ่ายผู้ได้รับผลกระทบในสาขาประมง ท้วงติงถึงความไม่จริงใจต่อการกำหนดวงเงินช่วยเหลือ

รถยก รถลาก รถสไลด์ออน สมยันต์รถยก: รถยก รถลาก รถสไลด์ออน

รถยกสมยันต์บริการ ให้ความไว้ใจในบริการ ยกรถ ลากรถ เคลื่อนย้าย ด้วยความชำนาญงานกว่า 10 ปี ในการให้บริการในเขตจังหวัดระยอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น